กิโมโน (着物) ชุดประจำชาติที่ชาวญี่ปุ่นสวมใส่มานานนับพันปี ได้รับอิทธิพลจากประเทศจีนช่วงราชวงศ์ถัง มักทำจากผ้าไหมหรือผ้าฝ้าย ประกอบด้วยผ้า 2 ชิ้น
นางางิ (長着) : ผ้าชิ้นใหญ่รูปตัว T สำหรับคลุมร่างกาย
โอบิ (帯) : ผ้าผืนยาวคาดเอว ทำหน้าที่รัดเสื้อคลุมให้แน่น
ชุดกิโมโนมีทั้งสำหรับผู้ชายและผู้หญิง กิโมโนของผู้ชายจะเป็นแค่สีพื้นเรียบ ๆ เช่น สีดำ น้ำตาล หรือน้ำเงินกรมท่า แตกต่างจากกิโมโนของผู้หญิงมักจะมีสีสันสดใสและลวดลายสวยงาม
ความหมายแฝงของลายกิโมโน
- ลายนกกระเรียน (鶴) สัญลักษณ์ของความอายุยืนและชีวิตที่อุดมสมบูรณ์
- ลายผีเสื้อ (蝶) สัญลักษณ์ของความงดงามของสตรี สุขภาพที่แข็งแรง
- ลายซากุระ (桜) สัญลักษณ์ของการเริ่มต้นใหม่ ความอุดมสมบูรณ์
- ลายดอกโบตั๋น (牡丹) สัญลักษณ์ของความมั่งคั่ง เกียรติยศ และความสูงส่ง
- ลายพัดคลี่กาง (扇) สัญลักษณ์ของการเติบโต อนาคตที่งอกงามและสดใส
ปัจจุบันชาวญี่ปุ่นนิยมสวมใส่กิโมโนเฉพาะในโอกาสพิเศษต่าง ๆ เช่น วันปีใหม่ วันชิจิโกะซัง วันฉลองบรรลุนิติภาวะ วันสำเร็จการศึกษา วันแต่งงาน หรือไปร่วมงานพิธีการที่เกี่ยวกับวัฒนธรรมญี่ปุ่น เช่น พิธีชงชา การแสดงดนตรีญี่ปุ่น การจัดดอกไม้แบบญี่ปุ่น เป็นต้น
วันที่ 29 พฤษภาคมของทุกปี ถูกกำหนดให้เป็นวันแห่งกิโมโน (呉服の日, Gofuku no Hi) ซึ่ง Gofuku เป็นชื่อเรียกอีกชื่อหนึ่งของกิโมโน
คราวหน้าจะมีเรื่องราวอะไรเกี่ยวกับญี่ปุ่นมาฝากอีก อย่าลืมติดตามกันด้วยน้า